การลงทุนเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพูนทรัพย์สิน แต่เมื่อมีรายได้จากการลงทุน สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือเรื่องของภาษีเงินได้จากการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนและจัดการภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับภาษีเงินได้จากการลงทุน
1. ประเภทของรายได้จากการลงทุนที่ต้องเสียภาษี
-ดอกเบี้ย (Interest Income):รายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากหรือพันธบัตรต้องเสียภาษีในอัตราภาษีที่กำหนด ยกเว้นดอกเบี้ยจากบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี
- เงินปันผล (Dividend Income): รายได้จากเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นจะต้องเสียภาษี โดยทั่วไปแล้วจะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% และสามารถเลือกวิธีเสียภาษีในแบบยื่นเพิ่มเติมหรือแบบปล่อยให้เป็นภาษีสุดท้ายได้
- กำไรจากการขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ (Capital Gains): กำไรจากการขายหุ้นหรือตราสารหนี้ อาจต้องเสียภาษีโดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการลงทุน เช่น การขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะได้รับการยกเว้นภาษีในบางกรณี
2. การหักภาษี ณ ที่จ่าย
- สำหรับรายได้บางประเภท เช่น ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยที่สถาบันการเงินหรือบริษัทจะหักภาษีไว้และนำส่งให้กับกรมสรรพากร
- คุณสามารถเลือกให้การหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นภาษีสุดท้าย หรือนำมารวมคำนวณกับรายได้อื่น ๆ ในการยื่นภาษีประจำปี
3. การยื่นภาษีเงินได้จากการลงทุน
- คุณต้องรวมรายได้จากการลงทุนเข้ากับรายได้อื่น ๆ ในการยื่นแบบภาษีประจำปี (ภ.ง.ด. 90/91)
- การยื่นภาษีต้องทำภายในวันที่ 31 มีนาคม* ของปีถัดไป หากมีรายได้จากการลงทุนที่ไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย คุณควรเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อมสำหรับการยื่นภาษี
*อาจมีการแปลงเปลี่ยนได้ตามกรมสรรพากรกำหนดและประกาศใช้
4. สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการลงทุน
- การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของรายได้ และต้องไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท หรือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของรายได้ และสุงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
- ควรตรวจสอบเงื่อนไขการลงทุนและสิทธิ์ลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ เพื่อให้การลงทุนไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทน แต่ยังช่วยลดภาระภาษีอีกด้วย
5. ภาษีจากการลงทุนในต่างประเทศ
- หากคุณมีรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ รายได้เหล่านี้อาจต้องเสียภาษีทั้งในประเทศที่ลงทุนและในประเทศไทย (ขึ้นอยู่กับข้อตกลงทางภาษีระหว่างประเทศ)
- คุณอาจสามารถขอเครดิตภาษีจากต่างประเทศได้ หากได้ชำระภาษีในประเทศนั้นแล้ว
6. การวางแผนภาษีสำหรับการลงทุน
- วางแผนภาษีให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้อย่างเต็มที่ และลดภาระภาษีให้ต่ำที่สุด
- การศึกษากฎระเบียบภาษีและปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนและภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าใจเรื่องภาษีเงินได้จากการลงทุนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนได้ดีขึ้น และปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอย่างถูกต้อง โดยไม่พลาดโอกาสในการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่คุณควรได้รับ
บทความ: วันที่ 30/08/2567